นับตั้งแต่ มีระบบการชาร์จแบบไร้สายมา ไอโฟนก็ได้เปลี่ยนฝาหลังเป็นกระจกหมดทุกรุ่น เพื่อที่จะรองรับระบบชาร์จนี้ และด้วยที่ฝาหลังเดิมเป็นโลหะเปลี่ยนมาเป็นกระจกซะแล้วปัญหาฝาหลังแตกก็มีมากขึ้นเช่นกัน

YukiFix มีบทความ วิธีตรวจสอบง่ายๆ ที่จะเป็นเกณฑ์ตัดสิน ว่าจะเลือกเปลี่ยนเฉพาะกระจกฝาหลังได้ไหม? หรือว่าต้องเปลี่ยนทั้งบอดี้เลย พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสียของการเปลี่ยนทั้งบอดี้และเฉพาะกระจกฝาหลังครับ

เริ่มการด้วยข้อมูลที่ว่า แอปเปิลไม่มีนโยบายขายอะไหล่ ฉะนั้นแล้วการเปลี่ยนอะไหล่ใหม่เข้าไป อะไหล่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอะไหล่ที่ผลิตมาเพื่อใช้ทดแทน(อะไหล่เทียบ) ยกเว้นแต่ว่าเราจะได้อะไหล่แท้แกะเครื่องหรือว่าของเครื่องมือสองที่ไม่สามารถใช้งานได้แล้วแกะเอาอะไหล่มาใช้งานต่อ 

ด้วยข้อมูลแบบนี้แล้ว การที่จะเปลี่ยนอะไหล่ซักอย่างออกจากเครื่องจึงต้องจำเป็นจริงๆ เพราะนั้นหมายถึงการเอาอะไหล่แท้ออก เอาอะไหล่เทียบมาใช้แทนอะไหล่แท้เดิม ซึ่งถ้าอะไหล่นั้นไม่ได้เสียก็แนะนำให้รักษาไว้จะดีที่สุดครับ

เช่นในกรณี ฝาหลังแตกนี้ การเปลี่ยนทั้งบอดี้ออกไปเลยนั้นเท่ากับเราได้เอาบอดี้แท้ซึ่งแน่นอนครับว่า เกรดของเหล็ก การอบสี ความเรียบร้อย การเก็บงาน ระยะน๊อต ระยะกล้อง กระจกเลนส์หล้อง อะไรพวกนี้ซึ่งดีมากๆอยู่แล้ว อาจจะดร๊อปลง เพราะอะไหล่ที่ผลิตมาใช้ทดแทนก็มักจะมีเกรดที่ต่ำกว่า

ถ้าฝาหลังไอโฟนของเราแตก YukiFix เรามีหลักในการให้พิจารณาเพื่อที่จะไม่ต้องเสียบอดี้แท้ของเราไป

1.ตัวบอดี้เครื่องไม่โค้งงอมากจนไม่สามารถดัดได้ 

2.ขอบหรือมุมต่างๆไม่บุบเข้าไปมากจนไม่สามารถใส่กระจกแผ่นใหม่เข้าไปได้

3.ตัวบอดี้ไม่มีการฉีกขาด

ถ้าบอดี้ของลูกค้าไม่มีอาการใดอาการหนึ่งใน 3 ข้อ ลูกค้าสามารถเลือกเปลี่ยนเฉพาะกระจกฝาหลังได้ครับ รักษาบอดี้แท้เดิมให้ได้ใช้งานต่อ 

ข้อดีอีกประการของการเปลี่ยนเฉพาะกระจกคือ ไม่จำเป็นต้องย้ายอุปกรณ์ด้านใน ซึ่งการโยกย้ายอุปกรณ์นั้น อาจทำให้เครื่องเสียหายได้ครับ

และที่สำคัญกระจกฝาหลังไม่มีฟังก์ชั่นการใช้งานใดๆ การเปลี่ยนเฉพาะกระจกฝาหลังนั้นจะไม่ทำให้ฟังก์ชั่นการใช้งานนั้นผิดปกติ ตัวเครื่องยังคงสามารถใช้ Wireless Change ได้เหมือนเดิมแน่นอน 

แต่กรณีที่บอดี้ได้รับความเสียหนัก อันนี้ไม่มีทางเลือกอื่นครับ ต้องเปลี่ยนเพื่อใช้งานต่อก็ได้เช่นกัน ทางร้านเราใช้อะไหล่เกรดเทียบเท่ามั่นใจได้ครับว่าสวยงามเหมือนใหม่ แข็งแรงทนทาน ใช้งานต่อได้อีกนานเลยทีเดียวครับ